ในปัจจุบันการดำเนินการทางธุรกิจจะอาศัยบุคคล เช่น กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการทั่วไป หรือ ผู้จัดการฝ่าย เป็นผู้คอยควบคุมให้กิจการดำเนินไปอย่างถูกต้อง โดยระหว่างที่มีการดำเนินกิจการอยู่นั้นจะต้องมีการบันทึกผลการดำเนินงานและข้อมูลของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงาน เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาประเมินผลและวิเคราะห์การทำงานของบริษัทให้ประสบความสำเร็จตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
เราจะเห็นได้ว่าบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจนั้น จะมีการทำงานที่เป็นระบบ มีระเบียบ เป็นแบบแผนมีขั้นตอนเรียงลำดับการทำงาน ทำงานเร็ว และได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นผลมาจากการมีกระบวนการดำเนินงานในบริษัทที่ดีและมีประสิทธิภาพ เราสามารถสังเกตุได้อย่างง่ายๆว่าบริษัทของเรานั้น มีกระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพหรือไม่นั้น สามารถดูได้จากการทำงานในกระบวนการว่ามีการทำงานที่ติดขัด หรืองานล่าช้า ทำให้ไม่สามารถทำงานต่อเนื่องได้ หรือ ดูจากการทำงานที่วกวน ซ้ำซ้อน ของขั้นตอนในการทำงาน หรือ งานที่ทำตกค้าง ตกหล่น เสร็จงานไม่ตรงเวลาที่กำหนด หรือ การทำงานที่มีความผิดพลาดบ่อย ทำงานเสียเปล่า เสียเวลา และไม่ก่อประโยชน์ต่อการทำงาน หากในบริษัทไม่พบสิ่งเหล่านี้ในการทำงาน ย่อมหมายถึงประสิทธิภาพที่ดีของกระบวนการทำงานในบริษัท
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ช่วยส่งเสริมให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ได้แก่ ศักยภาพของบุคลากรในบริษัท ที่จะนำความรู้ความสามารถมาใช้ในการทำงานให้มีคุณภาพมากขึ้น ลดความผิดพลาดจากการทำงานที่ไม่เข้าใจ และสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ ส่งผลต่อทัศนคติและบรรยากาศที่ดีในการทำงานร่วมกันในบริษัทได้ และการมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัยและมีคุณภาพ จะช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง งานเสร็จไว รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการทำงาน เช่น โปรแกรม BPMS ของ TAASK จะช่วยให้การดำเนินงานในกระบวนการต่างๆของบริษัทมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถมั่นใจในด้านการทำงานว่ามีการดำเนินงานตามขั้นตอนได้อย่างถูกต้อง งานไม่ตกหล่น ตกค้าง และมั่นใจในด้านความปลอดภัยของข้อมูล
ดังนั้น การที่บริษัทมีกระบวนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และมีปัจจัยอื่นๆที่ช่วยส่งเสริมการดำเนินงานที่มีคุณภาพ ย่อมหมายถึงความความสำเร็จในการทำธุรกิจที่สูงมากขึ้นตามด้วยเช่นกัน